ปัจจุบันการสื่อสารมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของภาษา หากใครที่สามารถใช้ภาษาได้มากกว่า 1 ภาษา ย่อมส่งผลดีกับตัวเองและยังได้เปรียบในเรื่องหน้าที่การงานอีกด้วย นอกจากนี้ การที่เรารู้หลายภาษาทำให้เราเดินทางไปไหนก็ได้บนโลกใบนี้ เปิดโลก เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง การแปลภาษาได้จึงเป็นเรื่องจำเป็น และควรจะเริ่มต้นจากความรักในตัวภาษานั้นเสียก่อน เพราะฉะนั้น เราจะไปดูเทคนิคการแปลกับ ฉันรักแปล แปลยังไงให้ปังปุริเย่ แปลให้ดีและปังในเวลาเดียวกันค่ะ
สะกดจิตตัวเองค่ะ ฉันรักแปล ฉันรักแปล ฉันรักแปล รู้หรือไม่คะว่า การบอกเช่นนี้กับตัวเองซ้ำ ๆ จะเกิดการจดจำติดอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนเรา นั่นหมายความว่า เราสามารถคอนโทรลให้จิตใจของเรารู้สึกรักที่จะแปลได้แม้เราจะไม่ได้รักแปลจริง ๆ ก็ตาม
2. อย่าลืมเปลี่ยนหน่วยวันที่และเวลา
นอกจาก ฉันรักแปล แล้ว รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเปลี่ยนหน่วยของวันที่และเวลา จะทำให้การแปลของเราดูมืออาชีพมากขึ้นนั่นเองค่ะ ลองคิดเล่น ๆ นะคะว่า หากเราแปลจากไทยเป็นอังกฤษแต่ว่าหน่วยวันที่ของเรายังคงรูปแบบของไทย มันจะตลกมากขนาดไหน ฉันรักแปล ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะค่ะ
3. แปลให้กระชับแต่ได้ใจความ ฉันรักแปล
ความรักในการแปลของคุณ จะส่งผลให้คุณแปลงานได้กระชับและได้ใจความ เนื่องจากเมื่อ ฉันรักแปล ตัวเราจะให้ความสนใจในงานที่แปล ทำให้เราสามารถบรีฟแปลเรื่อง ๆ นั้นได้เข้าใจ เสมือนเรากำลังอ่านมันอยู่นั่นเอง
4. ไม่เปลี่ยนแปลงรูปแบบของต้นฉบับ
ไม่ว่าจะเป็นการย่อหน้า การเว้นวรรคตอน การจัดหน้า สัญลักษณ์ต่าง ๆ รวมถึงรูปภาพและตาราง คุณควรจะคงรูปแบบเดิมของต้นฉบับให้ได้มากที่สุด นั่นเป็นเพราะเมื่อคนอ่าน จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ่านงานต้นฉบับอยู่ มันจะไม่ทำให้เสียอรรถรสในการอ่านไป เท่านี้ ฉันรักแปล จะแปลได้อย่างมืออาชีพขึ้นแน่นอน
5. รีเช็คสำนวนภาษาที่ตรงกับกลุ่มผู้อ่าน
การจะเป็นผู้แปลที่ดี คุณจะต้องคำนึงถึงความรู้สึกของกลุ่มผู้อ่านด้วย เพราะนั่นบ่งบอกถึงความใส่ใจในงานของคุณเอง การรีเช็คสำนวนภาษา ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบของภาษา โครงสร้างประโยค การนำเสนอ ที่จะช่วยให้กลุ่มผู้อ่านเข้าใจถึงประเด็นที่ผู้เขียนกำลังสื่อสารออกไป ฉันรักแปล จงแปลอย่างสมบูรณ์ที่สุดและบิดเบือนให้น้อยที่สุดหรือถ้าไม่บิดเบือนเลยจะยิ่งดี
6. แบ่งประโยคเมื่อจำเป็น ฉันรักแปล
ในการแปลแต่ละครั้งนั้น โดยมากนักแปลจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าการแบ่งประโยคในภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้นมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว บางคนจะติดการเขียนภาษาไทยแบบเขียนไปเรื่อย ๆ ยาว ๆโดยขาดดการแบ่งประโยค นั่นนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกนัก เมื่อ ฉันรักแปล ควรคำนึงเรื่องนี้ให้มาก ๆ ซึ่งเทคนิคในการแบ่งประโยคนั้น ควรเริ่มจากการหาจุดเริ่มต้นและจุดจบของประโยค เพื่อให้การเขียนของคุณจะง่ายขึ้น จากนั้นให้พยายามใช้คำเชื่อมต่าง ๆ ที่หลากหลายมาเป็นตัวแบ่งประโยค เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของตัวรูปประโยค เท่านี้ ฉันรักแปล ก็จะแปลได้อย่างสมู้ทขึ้นแล้ว
7. ตรวจสอบความถูกต้องของภาษา
เทคนิคข้อสุดท้าย ของ ฉันรักแปล ที่จะทำให้การแปลของปังปุริเย่ที่สุด นั่นคือ การตรวจสอบความถูกต้องของภาษา คุณจำเป็นที่ต้องมีการพิสูจน์อักษร ไม่ให้เกิดความผิดพลาดหรือตกหล่น ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ การเว้นวรรคตอน ไวยากรณ์ โครงสร้างประโยค ฯลฯ จะต้องตรวจสอบให้ละเอียด เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ไม่คลาดเคลื่อน
จบไปแล้วการเทคนิค ฉันรักแปล แปลยังไงให้ปังปุริเย่ ถ้าอยากจะแปลให้เนี้ยบนิ้ง คุณจะต้องศึกษาและเข้าใจภาษานั้น ๆ เป็นอย่างดีเสียก่อน และนำเอาเทคนิคข้างต้นนี้ไปปรับใช้กับงานของคุณดูนะคะ รับรองว่า ถ้าทำได้ตามนี้ ลูกค้าติดตรึม